
“พ่อพรุ่งนี้หนูอยากไปก่อนเวลา 30 นาที หนูต้องตั้งนาฬิกากี่โมง พ่อตั้งนาฬิกาปลุกให้หนูได้ไหม” สีฝุ่นบอกผม
“7.30 น. หนูมีมือถือแล้วตั้งเองเลย เดี๋ยวพ่ออาบน้ำเสร็จไปสอนให้”
มือถือเครื่องใหม่สำหรับภารกิจสำคัญ
เมื่อเดือนที่แล้วผมซื้อมือถือเครื่องใหม่ โดยตั้งใจว่าจะให้เค้าใช้ถ่ายคลิปการวาดรูปของตัวเอง
สีฝุ่นตื่นเต้นมาก เราพูดคุยและตกลงกันว่าจะทำคลิปอาทิตย์ละกี่ชิ้น จะทำอะไรบ้าง
แต่เอาเข้าจริง ๆ ในช่วงแรกที่ได้มา มันสนุกมากเลย คือเอาแต่เล่นเกม ดู youtube สนุกสนาน
จนกระทั่งผมต้องชวนมาคุยกันใหม่ ว่าเราซื้อมือถือมาทำไม ตกลงกันไว้อย่างไรบ้าง หลังจากนั้น เมื่อสีฝุ่นเริ่มวาดรูป เขาจะเรียกผมไปช่วยดูการตั้งกล้อง เพื่อถ่ายการวาดรูปของตัวเอง
เริ่มทำคลิบด้วยตัวเอง
เมื่อถ่ายเสร็จผมจึงสอนให้ใช้โปรแกรมตัดต่อทำคลิปให้สั้นลงด้วยการเร่งวิดีโอให้เร็วขึ้น จบท้ายด้วยการใส่เสียงพากษ์ + เสียงเพลง ลงในคลิป
เวลาผ่านไป 2 – 3 อาทิตย์ เจ้าตัวถึงจะเอาคลิปแรกขึ้นได้ ด้วยความไม่ชอบเสียงตัวเองในคลิป ซึ่งตรงนี้ผมเข้าใจได้ เพราะผมผ่านมาแล้ว ตอนผมเอาคลิปตัวเองขึ้นผมใช้เวลา 2 – 3 เดือนในการทำใจ ลูกใช้เวลาแค่ 2 – 3 อาทิตย์
คลิปแรกทำได้ดีทีเดียว มีคนชอบไม่น้อย เพื่อน ๆ มาทักกันใหญ่ว่าชอบคลิปที่สีฝุ่นทำ
หลังจากนั้น ความถี่ในการทำคลิปถือว่าทำได้ใกล้เคียงตามที่ตกลงเลยที่เดียว เห็นได้ว่าสามารถจัดการตัวเองได้ดี
วิธีตั้งนาฬิกาปลุก
“Google, help me set up an alarm clock” (กูเกิ้ลช่วยตั้งนาฬิกาปลุกให้หน่อย) สีฝุ่นพูดใส่โทรศัพท์มือถือ
“Alright, when’s the alarm for?” (ได้ ปลุกเมื่อไหร่ดี) มือถือตอบ
“7.30” สีฝุ่นบอก
“Alarm Set” นาฬิกาปลุกถูกตั้งแล้ว
ผมยังไม่ทันเริ่มอาบน้ำเลย ลูกก็ตั้งนาฬิกาปลุกเสร็จแล้ว ด้วยการสั่งงานด้วยเสียง
ถ้าให้ผมไปสอน ผมคงบอกให้เค้าหา app นาฬิกา กดเข้าไป แล้วก็ตั้งเวลา จิ้ม ๆ ๆ มิใยที่ต้องรอผมอาบน้ำเสร็จอีก
สิ่งที่เคยสำคัญในปัจจุบันจะยังคงความสำคัญในอนาคตอยู่ไหม
ผมนึกถึงหลาย ๆ เรื่องที่เคยเป็นทักษะสำคัญของคนรุ่นหนึ่ง แต่ในอีกยุคหนึ่งมันอาจจะไม่ได้สำคัญอีกแล้ว
ผมนึกถึงการเขียน การพิมพ์แป้นคีย์บอร์ด ที่ผมไม่แน่ใจว่ามันจะยังสำคัญสำหรับลูกอยู่ไหม
เรายังต้องคัดลายมือกันอย่างเข้มข้นอีกไหม ถ้าไม่แล้วการพิมพ์ดีดล่ะข้ามไปเลยได้หรือเปล่า
เด็ก ๆ ทุกวันนี้ก็สามารถบันทึกสั่งการเรื่องต่าง ๆ ได้โดยไม่ต้องเขียนหรือพิมพ์อีกแล้ว
หรือแม้กระทั่งการฝึกภาษาที่ 2 หรือ 3 จะเป็นประโยชน์ในเด็กเล็ก ช่วยเรื่องสมองและการเข้าใจโลก เข้าใจวัฒนธรรม แต่ผมไม่แน่ใจว่าการเรียนภาษาต่าง ๆ จะยังสำคัญอยู่หรือเปล่า หากเรามี app แปลภาษาที่ทันสมัยในอนาคต
เพียงแค่ 7-8 ปีกับการใช้ smart phone วิธีการตั้งนาฬิกาปลุกของผมก็เก่าไปแล้ว
เทียบกับวิธีการของคุณรุ่นเรากับพ่อแม่ ผมคิดว่ามันใช้เวลา 10 – 20 ปีกว่าจะมีวิธีการอะไรใหม่ ๆ แต่ในสมัยเรากับลูก การเปลี่ยนแปลงเร็วขึ้นเรื่อย ๆ
อัตราการเปลี่ยนแปลงในเรื่องต่าง ๆ รวดเร็วขึ้น แทนที่คนยุคหนึ่งจะมีเวลาปรับตัวหรือจะเรียกให้น่ากลัวว่า คนเราจะเริ่มตกยุคสมัยในเวลา 20 – 30 ปี กลายเป็นว่าเราอาจจะเริ่มตกยุคสมัยกันในเวลา 10 ปีหรือต่ำกว่านั้นด้วยซ้ำ
ความไว้วางใจในตัวเด็กทำให้เราวางใจโลกอีกครั้ง
เราไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร แต่เราสามารถเรียนรู้เพื่อเข้าใจได้
เด็ก ๆ ต้องการความเชื่อมั่นและไว้วางใจจากเรา
เด็ก ๆ ต้องการรคนที่เชื่อใจและไว้ใจว่าเขาทำได้ ให้คำแนะนำ ตักเตือน ชี้แนะตรงจุดที่สำคัญ เป็นคำแนะนำที่ดีที่สุดจากประสบการณ์ของเรา ซึ่งอาจจะไม่มีประโยชน์เลยในสายตาเขา แต่เขาย่อมรับรู้ได้ถึงความใส่ใจ
เพื่อให้เค้าสร้างอนาคตของตัวเองได้ อนาคตที่มีความใส่ใจต่อคนอื่นเช่นเดียวกับที่เขาได้รับ
เป็นอนาคตที่ไม่ได้รอวิธีการเดิม ๆ จากเรา
เพื่อจะวางใจและเชื่อใจในตัวเด็ก เราจึงต้องวางใจในตัวเอง วางใจว่าเราสามารถเรียนรู้และเข้าใจการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้น
ถ้าเราอยากเห็นสิ่งใหม่วันนี้ เราต้องเริ่มตั้งแต่เมื่อวาน
ถ้าเราอยากเห็นสิ่งใหม่ในวันพรุ่งนี้ เราต้องเริ่มอะไรใหม่ ๆ ในวันนี้
สุดท้ายนาฬิกาปลุกได้ถูกตั้งแล้ว เหลือแค่รอเวลาให้คนหลับตื่นขึ้นมา….
หวังว่าเค้าจะไม่กดหยุดแล้วกลับไปหลับต่อ